คนที่มีระดับความสุขในชีวิตสูง เขาใช้เงินซื้อความสุขนะ แต่เขาเลือกที่จะแบบเงินแบบนี้ เงินออม 25% ลงทุนอีก 12% และ 40% เขาจะใช้ไปกับการซื้อประสบการณ์ชีวิต
ดร.ไรอัน ที. ฮาวเวล (Dr.Ryan T. Howell) รองศาสตราจารย์ นักจิตวิทยาประจำ Francisco State University และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์การเงิน BeyondThePurchase.org ได้กล่าวไว้
ซึ่งหากมนุษย์เงินเดือนอย่งเราๆ สามารถจัดสรรเงินของตัวเองได้เป็นเปอร์เซนต์ตามแผนได้แบบที่ ดร.ไรอัน กล่าวไว้คงไม่มีหัวข้อกระทู้ตามคอมมูนิตี้ชื่อดังมากมายอย่าง “ขอวิธีเก็บเงินหน่อยครับ” หรือ “อายุจะสามสิบแล้ว แต่ยังไม่มีเงินเก็บ ทำอย่างไรดีคะ” อีกทั้งภาระทางสังคมบางครั้งไม่ยากต่อการหักห้ามใจก็เอื้อต่อการสูญเสียตามมา ดังนั้น เรื่องของเงินออม 25% จึงเหมือนเป็นเรื่อง… “ในความคิด” เท่านั้น
แต่ใช่ว่าจะหมดหนทาง เรามีวิธีเก็บเงินแบบง่ายๆที่มนุษย์เงินเดือนที่ไหนก็สามารถทำตามได้ เริ่ม!
1. แบ่งค่าใช้จ่ายออกในแต่ละเดือน
ข้อนี้สำคัญมากที่สุด ทำบัดเจ็ทกันไปเลย ลิสต์มา มีอะไรบ้างที่จะต้องจ่ายเลือกที่จำเป็นที่สุดก่อน เช่นค่าผ่อนรถยนต์ ผ่อนบ้าน ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต เป็นต้น พวกนี้เป็นรายการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ยกตัวอย่าง
– ค่าผ่อนรถยนต์ 5,000 บาท
– ค่าน้ำมัน 3,000 บาท
– ค่าอาหาร 4,000 บาท
– ค่าโทรศัพท์ 700 บาท
– เงินเก็บ 5,000 บาท
รวมทั้งหมดออกมา เมื่อเงินเดือนออกให้กดก้อนบังคับนี้ออกก่อนเลย แบบนี้จะทำให้เราไม่หลงลืมภาระค่าใช้จ่ายที่สำคัญ
2. วิถีการกดเงินต้องเปลี่ยนแปลง
เมื่อเราจัดค่าใช้จ่ายตามข้อ 1. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และใช้จ่ายตามที่กำหนดไว้ แบบนี้ในแต่ละเดือนจะกดเงินแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หรือจะแบ่งเป็นแนวทางใหม่ในส่วนของค่าอาหาร ลิสต์ไว้ที่ 4,000 บาท เราสามารถกดใช้รายสัปดาห์ๆละ 1,000 บาท และไม่กดใหม่จนกว่าจะครบกำหนดเวลา เท่านี้ก็ช่วยให้วินัยในการใช้เงินเป็นไปด้วยดีมากขึ้นแล้ว
3. “ช็อปปิ้ง” กับสิ่งที่ยังไม่พูดถึง
“40% เขาจะใช้ไปกับการซื้อประสบการณ์ชีวิต” อ้างอิงจากคำกล่าวข้างต้นที่เราได้ยกมา ซึ่งจะขอรวมการช๊อปปิ้งเป็น 1 ในประสบการณ์ชีวิตที่ขาดไม่ได้ (ถูกหรือไม่?) มันเป็นเรื่องที่ง่ายแต่ทำยากมาก ถ้าเราจะบอกให้งบส่วนนี้ไว้เลย 3,000 บาทต่อเดือนและใช้แค่นั้น แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะดีไปกว่านี้แล้ว หากอยากให้วิถีการเงินของเรามีระเบียบมากขึ้น
คำแนะนำสำหรับคนที่มีบัตรเครดิตอาจเลือกใช้ได้ เพราะข้อดีของบัตรใช้เงินล่วงหน้านี้คือเมื่อเรารูดซื้อของ เราจะได้แต้มสะสมเพื่อใช้เป็นส่วนลดอื่นๆ มีแค่เพียงข้อแม้เดียวคือ “ต้องจ่ายบิลให้ตรงเวลา”
4. ทริคเล็กๆ น้อยๆ ช่วยได้เหมือนกัน
ไม่ใช่เรื่องเสียเวลาเลย หากเราจะลองทำตามทริคการเงินเล็กๆน้อยๆ ที่เจอตามคอลัมน์หน้านิตยสาร หรือแม้แต่ตอนที่คุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ เช่น “5 วิธี ขับรถให้ประหยัดน้ำมัน” แค่ลองทำตามดูไม่เสียหายแล้วท้าทายตัวเองด้วยการดูสถิติในแต่ละเดือนว่าได้ผลหรือไม่ หรือจะเป็น “จองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูก” สำหรับคนชอบเที่ยวก็น่าสนใจไม่น้อย มีทริคมากมายให้เลือก เปรียบเทียบราคาเป็นการฝึกนิสัยของผู้บริโภคที่ชาญฉลาด!
5. บันทึกรายรับรายจ่ายทุกวัน
ข้อดีที่เชื่อทุกคนน่าจะเคยได้ยินกันอยู่แล้วคือการทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะทำให้เราเห็นทุกความเคลื่อนไหวในการใช้เงินของตัวเอง บันทึกจะทำให้เรารู้ว่า เราใช้เงินไปกับเรื่องไหนมากที่สุดและทำให้จัดสรรwได้ง่ายขึ้น ยิ่งปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมานั่งจดบนกระดาษอีกแล้ว มีแอพพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาออกมาเพื่อส่งเสริมเรื่องนี้มากมาย ลองไปหาใช้กันดู
ทั้งหมดนี้คือ 5 ข้อที่จะช่วยให้การเก็บเงินของมนุษย์เงินเดือนทุกคนบรรลุเป้ากหมายได้สิ่งสำคัญคือต้องมองให้ไกลไปให้ถึงอนาคต “การออมเงิน“ มีหลากหลายวิธี เราสามารถเลือกได้ตามความต้องการ อย่าลืมที่จะแบ่งส่วนไปลงทุนหรือทำประกันชีวิตเพื่อความมั่นลงของตัวเองและครอบครัวในระยะยาว
ที่มา: Healthy Living by Allianz Ayudhya
No Comment