พอร์ตสาธิตยูนิตลิงค์ (My Unit-Linked) ประจำเดือนสิงหาคม 2562
พอร์ตสาธิตนี้จัดทำขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์คือ
1. เป็นพอร์ตยูนิตลิงค์ สำหรับการศึกษาเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (เริ่ม 1 ธ.ค. 2559-2599)
2. เป็นพอร์ตการลงทุนจริงของผม สำหรับความคุ้มครองต่อเนื่อง 40 ปี (อายุ 85 ปี)
คาดหวังผลตอบแทน เฉลี่ย 5% ต่อปี กรมธรรม์คุ้มครองถึงสิ้นปีที่ 40 อายุ 85 ปี

สถานะพอร์ต เดือนสิงหาคม 2562
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา SCBS ออกรายงานประจำเดือน ส.ค. 2562 สรุปภาพรวมตลาด SET ปรับลดลง -3.33% MoM ท่ามกลางปัจจัยกดดันตลอดทั้งเดือน เริ่มจากการรายงานงบ 2Q62 ที่หดตัวลง 16% YoY ตามด้วยความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น และกระแส Fund Flow ที่ไหลออก หลังนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นเดือนแรก ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงต่ำสุดที่ 1590 จุด อย่างไรก็ตาม หากประเมินในเชิง Valuation พบว่า ที่บริเวณ 1600 จุด อิง EPS ตลาดปี 2563 ที่ 112 บ. คิดเป็น Expected P/E ราว 14.3x ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจในการทยอยสะสม จึงประเมินแนวรับไว้ที่บริเวณ 1590 – 1600 จุด ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 1680 – 1700 จุด เนื่องจากเป็นบริเวณที่ Valuation เริ่มตึงตัว ทำให้มอง SET ในเดือน ก.ย.2562 จะเคลื่อนไหวอยู่ภายในกรอบดังกล่าว ส่งผลให้พอร์ตสาธิตยูนิตลิงค์ที่ลงทุนในกองทุนหุ้นได้รับผลกระทบเชิงลบ

SET Indexปิด 30 ส.ค. 25621,654.92-57.05 / -3.33%(MoM)
SET50 Indexปิด 30 ส.ค. 25621,096.47-34.45 / -3.05%(MoM)

มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนในพอร์ตลงทุนจริงสาธิตเพื่อความคุ้มครอง(RPP) ณ สิ้นเดือน ส.ค.2562 (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ก.ย. 2562) พอร์ตเพื่อความคุ้มครองมีมูลค่า 12,039.69 บาท หลังจากหักค่าธรรมเนียมกรมธรรม์รายเดือน เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2562 (ค่าการประกันภัย 207 บาท และค่าธรรมเนียมรักษากรมธรรม์ 75 บาท) สถานะพอร์ตลงทุนจริงสาธิตเดือนนี้เทียบกับเดือน ก.ค. 2562 ขาดทุน -256.86 บาท หรือ -2.57% และเมื่อเทียบกับมูลค่าคงเหลือเงินลงทุน (เบี้ยประกันสะสมหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ) ณ สิ้นเดือน ส.ค. 2562 เท่ากับ 12,547.50 บาท มีมูลค่าลดลง(ขาดทุน) -507.81 บาท หรือ -4.05%

สถานะพอร์ตสาธิตยูนิตลิงค์ (My Unit-Linked) เดือน สิงหาคม 2562

สัดส่วนและผลตอบแทน
เปิดใช้งานปรับสัดส่วนลงทุนอัตโนมัติ (Auto Rebalance: AR) ทุกๆ 3 เดือน การปรับสัดส่วนลงทุนอัตโนมัติครั้งต่อไป 04 กันยายน 2562 สัดส่วนการลงทุนเป็น 80:20 (ตราสารทุน 80% และตราสารหนี้ 10% ตลาดเงิน 10%) ซึ่งสัดส่วนแต่ละกองทุนดังนี้
1) KFMTFI สัดส่วนพอร์ต 10% สัดส่วนปัจจุบัน 9.98%
2) TCMF สัดส่วนพอร์ต 10% สัดส่วนปัจจุบัน 9.85%
3) TMB50 สัดส่วนพอร์ต 80% สัดส่วนปัจจุบัน 80.17%

KFMTFI สัดส่วนพอร์ต 10% สัดส่วนปัจจุบัน 9.98% ลดลง -0.02% จำนวนหน่วยลงทุนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 จาก 78.4468 หน่วย จำนวนหน่วยลงทุนในเดือนสิงหาคม 2562 เหลือ 76.6533 หน่วย ลดลงเท่ากับ -‭1.7935‬ หน่วย ผลตอบแทนลดลง -1.65% เนื่องจากมีการขายหน่วยลงทุนเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมและ COI รายเดือน 28.1095 บาท

ผลการดำเนินงานกองทุน KFMTFI ย้อนหลัง 3 เดือน (ที่มา WealthMagik)

TCMF สัดส่วนพอร์ต 10% สัดส่วนปัจจุบัน 9.85% ลดลง -0.01% จำนวนหน่วยลงทุนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 จาก 80.7585 หน่วย จำนวนหน่วยลงทุนในเดือนสิงหาคม 2562 เหลือ 78.9127 หน่วย ลดลงเท่ากับ -1.8458‬ หน่วย ผลตอบแทนลดลง -2.09% เนื่องจากมีการขายหน่วยลงทุนเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมและ COI รายเดือน 27.7295 บาท

ผลการดำเนินงานกองทุน TCMF ย้อนหลัง 3 เดือน (ที่มา WealthMagik)

TMB50 สัดส่วนพอร์ต 80% สัดส่วนปัจจุบัน 80.17% เพิ่มขึ้น +0.17% จำนวนหน่วยลงทุนเมื่อเดือนกรกฎราคม 2562 จาก 93.8147 หน่วย จำนวนหน่วยลงทุนในเดือนสิงหาคม 2562 เหลือ 91.6670 หน่วย ลดลงเท่ากับ -2.1477 หน่วย ผลตอบแทนลดลง -2.06% เนื่องจากมีการขายหน่วยลงทุนเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมและ COI รายเดือน 226.1588 บาท

ผลการดำเนินงานกองทุน TMB50 ย้อนหลัง 3 เดือน (ที่มา WealthMagik)

สรุปผลดำเนินงานพอร์ต ณ สิ้นปีกรมธรรม์
ปีที่ 1: อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ทำได้ช่วง -1% ถึง 2% ต่ำกว่า ความคาดหวัง 5% ต่อปี
ปีที่ 2: อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ทำได้ช่วง -1% ถึง 2% ต่ำกว่า ความคาดหวัง 5% ต่อปี
ปีที่ 3: อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ทำได้ ณ 31 ส.ค. 2562 ต่ำกว่า ความคาดหวัง 5% ต่อปี

ผลตอบแทนคาดหวังพอร์ตสาธิตยูนิตลิงค์ (My Unit-Linked)

ข้อกังวล:
กรมธรรม์ประกันชีวิตประเภทยูนิตลิงค์ เริ่มทำสัญญาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 อายุ 46 ปี เพศชาย เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง 45 เท่า จำนวนเงินเอาประกันเพื่อความคุ้มครอง 540,000 บาท สำหรับความคุ้มครองต่อเนื่อง 40 ปี (อายุ 85 ปี) คาดหวังผลตอบแทน เฉลี่ย 5% ต่อปี
1. ณ อายุ 75 ปี กรมธรรม์ปีที่ 30 เบี้ยประกันสะสม 12,000 x 30 = 360,000 บาท
2. ณ อายุ 85 ปี กรมธรรม์ปีที่ 40 เบี้ยประกันสะสม 12,000 x 40 = 480,000 บาท
3. คาดหวังผลตอบแทน เฉลี่ย 5% ต่อปี กรมธรรม์คุ้มครองถึงสิ้นปีที่ 35 อายุ 80 ปี
4. มูลค่าหน่วยลงทุนไม่เพียงพอ ตั้งแต่อายุ 81 ปี จ่ายค่าธรรมเนียมกรมธรรม์รายเดือน (ถึงแม้ว่าจะจ่ายเบี้ยประกันต่อเนื่องทุกปี)
– ปีที่ 36 อายุ 81 ปี ค่าธรรมเนียมฯ 44,514.60 บาท
– ปีที่ 37 อายุ 82 ปี ค่าธรรมเนียมฯ 49,336.80 บาท
– ปีที่ 38 อายุ 83 ปี ค่าธรรมเนียมฯ 54,375.00 บาท
– ปีที่ 39 อายุ 84 ปี ค่าธรรมเนียมฯ 59,650.80 บาท
– ปีที่ 40 อายุ 85 ปี ค่าธรรมเนียมฯ 65,202.00 บาท

แนวทางแก้ไข:
มูลค่าหน่วยลงทุนไม่เพียงพอ ตั้งแต่อายุ 81 ปี ถึงแม้ว่าจะจ่ายเบี้ยประกันต่อเนื่องทุกปี หากต้องการให้ยังคงความคุ้มครองต่อเนื่อง แนวทางแก้ไขดังนี้
1) ปรับผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ย 5% ต่อปี ให้สูงขึ้นเป็น 6-8% ต่อปี ซึ่งสัดส่วนการลงทุนในพอร์ตสาธิตปัจจุบันผลตอบแทนคาดหวังของพอร์ตอยู่ในช่วง 6.63% – 8.32% หากเกิดปีวิกฤตอาจติดลบ -35.83% ผลตอบแทนที่ทำได้จริง -4.05% ณ สิงหาคม 2562 (2 ก.ย. 2562)

2) เพิ่มเบี้ย RSP ปีละ 12,000 บาท 15 ปี (ถึงอายุ 60 ปี) ผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ย 5% ต่อปี จำนวนเงินเอาประกันจาก 540,000 บาท เพิ่มเป็น 600,000 บาท และยังคงความคุ้มครองต่อเนื่องจนถึงอายุ 90 ปี

3) เพิ่มเบี้ย TOPUP ปีละ 12,000 บาท 15 ปี (ถึงอายุ 60 ปี) ผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ย 5% ต่อปี ยังคงความคุ้มครองต่อเนื่องจนถึงอายุ 90 ปี

เพื่อรักษาเป้าหมายความคุ้มครองต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่มีกรมธรรม์ Unit-Linked หรืออะไรก็ตาม ที่มีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่เรียกว่า Auto Rebalance (AR) ควรพิจารณานำมาใช้ เพราะจะช่วยให้ได้ประโยชน์หลายประการอย่างเป็นระบบ ได้แก่ 1) ได้ต้นทุนเฉลี่ยต่ำลง 2) รักษาระดับความเสี่ยง 3) รอทำกำไรช่วงขาขึ้น แต่ควรเลือกเวลาปรับสัดส่วนเหมาะสมตามพอร์ตการลงทุนแต่ละท่าน เร็วไปหรือช้าไปส่งผลตอพอร์ตของเราโดยรวม ผลประโยชน์ของตัวเรา ควรใส่ใจและรีวิวพอร์ตกรมธรรม์ประกันชีวิตประเภทยูนิตลิงค์ อย่างน้อยปีละครั้ง ปลอดภัยกว่ามาแก้ไขปัญหาในภายหลังครับ

รายงานสถานะทางการเงินของกรมธรรม์

เอกสารประกอบการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตประเภท ยูนิต ลิงค์
(ตัวอย่างการเปรียบเทียบมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์)

ข้อเสนอ(QE) ณ ธ.ค. 2559
ข้อเสนอ(QE) ณ ส.ค. 2562

** คำเตือน **

  • การลงทุนในหน่วยลงทุนตามรูปแบบของกรมธรรม์ประกันชีวิต ประเภท ยูนิต ลิงค์ มีความเสี่ยง ผู้ขอเอาประกันภัยอาจได้รับเงินคืนมากกว่าหรือน้อยกว่ามูลค่าเบี้ยประกันภัยที่ถูกจัดสรรเข้ากองทุน ที่ผู้ขอเอาประกันภัยเป็นผู้เลือก ทั้งนี้กรมธรรม์นี้ไม่มีการรับประกันเงินส่วนที่ได้ลงทุนไป
  • ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจในเงื่อนไขและผลประโยชน์ของกรมธรรม์ รวมทั้งเงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงในการลงทุน ตลอดจนความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย เนื่องจากกรมธรรม์นี้เหมาะสำหรับการออมเงินระยะยาว และมีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินจากกรมธรรม์และค่าธรรมเนียมการเวนคืนกรมธรรม์ ซึ่งอาจมีผลให้มูลค่าจากการถอนเงินจากกรมธรรม์และมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์มีมูลค่าน้อยกว่ามูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษารายละเอียดจากตารางค่าธรรมเนียมในการถอนเงินจากกรมธรรม์และค่าธรรมเนียมการเวนคืนกรมธรรม์
  • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ราคาของหน่วยลงทุนและผลตอบแทนที่จะได้รับจากหน่วยลงทุนมีโอกาสสูงขึ้นหรือต่ำลงได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเลือกกองทุนของผู้เอาประกันภัยและผลประกอบการของกองทุนรวม
  • การลงทุนในกองทุนรวมในบางกองทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ผู้เอาประกันภัยอาจจะได้รับเงินคืนมากกว่าหรือน้อยกว่า มูลค่าเบี้ยประกันภัยที่ถูกจัดสรรเข้ากองทุนเริ่มแรกได้ นอกจากนี้การลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนนั้น มีความเสี่ยงและมีความไม่แน่นอนของผลประโยชน์ที่จะได้รับค่อนข้างสูง และอาจเป็นไปได้ที่ผลประโยชน์ดังกล่าวจะไม่คุ้มกับมูลค่าที่ลงทุนไป ขณะที่กองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้นั้นมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า แต่ผลประโยชน์ที่จะได้รับก็จะต่ำกว่าเช่นกัน
  • การที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองอย่างคุ้มค่า อาจไม่ได้เกิดจากการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองที่สูงที่สุด แต่อาจเกิดจากการเลือกอัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองกับการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อการออม ดังนั้นผู้เอาประกันภัยควรพิจารณาอย่างรอบครอบในอัตราส่วนการชำระเบี้ยประกันภัยของทั้งสองประเภทจากตัวอย่างในการคำนวณหลายๆ แบบ
  • ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการลงทุนในกองทุน ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกองทุนที่นอกเหนือจากกรมธรรม์นี้ ได้จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน