เพราะว่าการประกันชีวิตเป็นสิ่งที่คุณต้องพิจารณาและเลือกอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ ดังนั้นก่อนที่จะคล้อยตามตัวแทนไปง่ายๆ คุณควรจะลองศึกษาการทำประกันชีวิตให้รอบคอบขึ้นอีกสักหน่อย และเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ต่อไปนี้อาจช่วยคุณได้…

1.
กรมธรรม์แบบเดียวกันและความคุ้มครองเท่ากัน
อาจมีต้นทุนที่แตกต่างกันในบริษัทประกันชีวิตแต่ละแห่ง
ไม่มีบริษัทประกันชีวิตใดที่ดีที่สุด และบริษัทที่แย่ที่สุด ดังนั้นคุณจึงควรตรวจสอบข้อเสนอของกรมธรรม์ประกันชีวิตหลากหลายแบบจากบริษัทประกันชีวิตให้ดีเสียก่อน และเพื่อเป็นการสำรวจตลาด คุณอาจลองคุยกับตัวแทนหลายๆ คน และให้พวกเขาแสดงเจตนารมณ์และวิสัยทัศน์ของบริษัท แต่ก็มีสิ่งที่พึงระวังก็คือ คุณพร้อมที่จะฟังการขาย? ที่แสนยาวนานหรือไม่ และคุณเองมีความรู้ในด้านการประกันชีวิตมากเพียงพอหรือยัง2. ขนาดของบริษัทประกันชีวิตไม่ได้เป็นหลักประกัน? ถึงความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวของบริษัทเสมอไป มีบริษัทประกันชีวิตขนาดใหญ่ในโลกหลายรายที่ประสบความล้มเหลวจนต้องปิดตัวเองไป ตรงกันข้ามบริษัทขนาดเล็กที่อยู่รอดก็มีให้เห็น ดังนั้นขนาดของบริษัทจึงไม่ใช่ตัวกำหนดความมั่นคงทางการเงินแต่อย่างใด และความแตกต่างของบริษัทยักษ์ใหญ่กับบริษัทเล็กก็คือ บริษัทใหญ่นั้นจะ ?ล้มดัง? กว่าเสมอ

3. เมื่อคุณกรอกใบขอเอาประกัน ให้อ่านทุกประโยคอย่างรอบคอบ และแน่ใจว่าคุณเข้าใจคำถามทุกคำถามในนั้น และตอบให้ถูกต้องอย่างระมัดระวัง อย่าเว้นช่องว่างไว้กรอกในภายหลัง

หากคุณกำลังจะทำกรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่แทนที่กรมธรรม์เดิม คุณก็ควรกรอกลงไปด้วย และแน่ใจว่าคุณได้เปรียบเทียบกรมธรรม์ทั้งสองแบบนั้นมาเป็นอย่างดีแล้ว ก่อนที่จะทำกรมธรรม์ฉบับใหม่ และการแจ้งไว้ว่ากรมธรรม์ฉบับเดิมจะถูกยกเลิกหากมีการซื้อกรมธรรม์ฉบับใหม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณ ?ต้อง? ยกเลิกสัญญานั้นจริงๆ และแม้ว่าคุณจะแน่ใจว่าคุณต้องการยกเลิกกรมธรรม์เดิมจริง คุณก็ไม่ควรจะยกเลิกกรมธรรม์นั้นก่อนที่จะมีการซื้อกรมธรรม์ใหม่แทนที่เกิดขึ้น

เมื่อถึงเวลาชำระเงิน แนะนำให้คุณจ่ายเป็นเช็คหรือธนาณัติสั่งจ่ายแก่บริษัทประกันชีวิตนั้นๆ โดยตรง พึงหลีกเลี่ยงการชำระเงินด้วยเงินสดและควรเก็บรักษาอุปกรณ์ในการนำเสนอขาย อาทิ โบรชัวร์ แผ่นพับ หรือเอกสารต่างๆ ที่ได้รับจากตัวแทน เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขสัญญาได้ต่อไป

เมื่อคุณได้รับกรมธรรม์ ให้ดูวันที่คุณได้รับกรมธรรม์ฉบับนี้ ทั้งนี้หากคุณไม่พอใจกรมธรรม์ดังกล่าว ก็ยังมีเวลาทดลองใช้กรมธรรม์หรือ Free look period อีกประมาณ 15 วันนับจากวันที่ได้รับเพื่อยกเลิกและขอคืนเงินเต็มจำนวน
และเมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วให้ตรวจสอบรายละเอียดในกรมธรรม์อย่างระมัดระวังทันทีในเรื่องต่างๆ ดังนี้
– กรมธรรม์สมบูรณ์ไม่มีหน้าใดหน้าหนึ่งขาดหายไป
– เบี้ยประกันชีวิตเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้
– ผลประโยชน์เป็นไปตามที่ตัวแทนเสนอไว้ และไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ในผลประโยชน์ที่คุณไม่เคยทราบมาก่อน
– กรมธรรม์นั้นมีมูลเงินสดหรือมูลค่าในการเวนคืนเป็นไปตามที่ตัวแทนได้แจ้งไว้
– การรับประกัน หรือความคุ้มครองเพิ่มเติมใดๆ ที่ตัวแทนนำเสนอมานั้นได้รวมอยู่ในสัญญาอย่างครบถ้วนคุณควรอ่านเอกสารในกรมธรรม์ให้หมด เพราะมันเป็นสัญญาทางกฎหมายที่คุณควรเข้าใจความหมาย เงื่อนไข ข้อจำกัด และข้อยกเว้นต่างๆ ทั้งหมด หากมีตรงไหนไม่แน่ใจหรือไม่เข้าใจให้สอบถามตัวแทนทันที หาคำตอบที่น่าพอใจให้ได้เร็วที่สุด เพราะคุณมีเวลาทดลองใช้เพียง 15 วันเท่านั้น

ในกรณีที่คุณตัดสินใจที่จะไม่เอากรมธรรม์นั้นแล้ว คุณต้องแน่ใจก่อนว่าคุณยังมีความคุ้มครองอื่นๆ ที่จำเป็นอยู่ และตัวแทนได้นำใบเสร็จมาให้คุณแล้ว และคุณได้ส่งกรมธรรม์กลับไปยังบริษัทประกันชีวิตด้วยวิธีที่ถึงมือผู้รับแน่นอน
แต่ถ้าคุณจะยังคงถือกรมธรรม์นั้นต่อไปละก็ นัดหมายกับตัวแทนเพื่อนำกรมธรรม์มาตรวจสอบอีกเสมอๆ และเก็บรักษากรมธรรม์ไว้ในที่ปลอดภัย และบอกให้ครอบครัวทราบว่าคุณเก็บไว้ที่ใด เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้จริงคุณหรือครอบครัวจะได้ไม่หลงลืม

ที่มา – ข่าวประกันกรุงเทพธุรกิจ”