คุณอาจเคยได้ยินข่าวเรื่องคนขี่สามล้อที่ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1 ซึ่งได้รับเงินรางวัลเป็นสิบ ๆ ล้าน แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี เขากลับไม่มีเงินเหลือแม้สักบาทเดียว สุดท้ายจึงต้องกลับมาถีบสามล้อใหม่อีกครั้ง อาจจะเป็นเรื่องน่าขำที่เกิดขึ้น แต่นี่เป็นเพียงตัวอย่างง่าย ๆ ของบุคคลที่ไม่มีการวางแผนหรือมีการวางแผนการเงินที่ไม่ดีพอ ซึ่งส่วนใหญ่มักเนื่องมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้
– คิดว่าตัวเองมีรายได้เพียงพอสำหรับภาระค่าใช้จ่ายรายวันแล้ว
– ไม่ต้องการคิดในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตในทางไม่ดี เช่น การว่างงาน ทุพพลภาพ ความตาย
– ไม่มีเวลาที่จะจัดทำแผน
– คิดว่าการวางแผนการเงินเป็นเรื่องที่มีค่าใช้จ่ายสูง
– ต้องการคงวิถีชีวิตของตนไว้ ซึ่งส่วนใหญ่มักคิดว่าสถานะการเงินของตนเองอยู่ในสภาพที่ดีอยู่แล้ว
– มักคิดว่าการวางแผนการเงินเหมาะสำหรับผู้ที่ใกล้เกษียณอายุเท่านั้น
ดังนั้น ก่อนที่คุณจะลงทุน คุณควรจะจัดสรรเงินที่มีอยู่ให้ตรงกับความต้องการของการใช้เงินที่คุณวางแผนไว้เสียก่อน โดยคำนึงถึงช่วงอายุและรายได้ จะได้รับทั้งหมดเป็นสำคัญ
ช่วงอายุ (Life Cycle)
เป็นปัจจัยสำคัญประการแรกที่คุณควรใช้พิจารณาในการวางแผนการเงิน ผู้ที่มีอายุน้อยและมีรายได้อยู่ในช่วงเริ่มสะสมทรัพย์ มักจะนิยมออมเงินเพื่อมาซื้อทรัพย์สินเช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ ตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน ทำให้เงินออมส่วนใหญ่มักจะจมไปกับการผ่อนหนี้ที่มัดตัวจนไม่สามารถนำไปลงทุนให้เงินงอกเงยได้เลย ดังนั้น คุณควรจะวางแผนว่ามีความ จำเป็นที่จะใช้สินทรัพย์ใดบ้าง ในช่วงอายุใดที่เหมาะสมจะซื้อ และต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้ได้มา เมื่อทำงานได้จนสามารถสะสมทรัพย์สินตามที่ต้องการแล้ว คุณควรจะเริ่มลงทุนในสิ่งที่มั่นคงถาวรขึ้น เพื่อเป็นเงินออมสำหรับใช้เมื่อหลังเกษียณอายุ โดยมีจุดประสงค์ที่จะเป็นอิสระทางการเงินเป็นสำคัญ
จากแผนภูมิ แสดงให้เห็นถึงช่วงอายุของผู้ลงทุน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ขั้นตอนของชีวิตช่วงที่เริ่มทำงานและสะสมทุนทรัพย์
เป็นช่วงที่มีรายได้น้อยแต่สม่ำเสมอ โดยปกติแล้วรายได้มักจะเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอตามระดับความรับผิดชอบที่สูงขึ้น และทักษะความรู้ที่พัฒนาขึ้นจากงานนั้นๆ
2. ขั้นตอนของชีวิตช่วงที่มีรายได้สูงกว่ารายจ่าย
เป็นช่วงที่มีระดับความสามารถในการหารายได้สูงที่สุด เนื่องจากคุณจะมีหน้าที่การงานที่มั่นคง ส่วนหนี้สินที่มีนั้นลดลง จึงทำให้มีเงินส่วนที่เหลือไว้สำหรับการลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ดี คุณควรจะเก็บเงินบางส่วนสำรองไว้สำหรับใช้ในช่วงเกษียณอายุด้วย
3. ขั้นตอนของชีวิตช่วงเกษียณอายุการทำงาน
คุณมีโอกาสน้อยที่จะหารายได้เพิ่มขึ้น จึงต้องใช้ทรัพย์สินที่สะสมและลงทุนไว้ เงินบำนาญ และเงินออมเพื่อเกษียณในการดำรงชีวิต ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นช่วงที่คุณจะมีอิสระทางการเงิน
4. ขั้นตอนของช่วงปลายชีวิต
มีทรัพย์สินมากเกินกว่าจะใช้หมด จึงมีเหลือเผื่อแผ่เจือจุนให้แก่ผู้อื่นได้ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
2.รายได้ที่ได้รับ (Income)
เมื่อมีรายได้เกิดขึ้นไม่ว่าจะได้จากเงินประจำเดือน จากธุรกิจส่วนตัว เงินจากมรดก หรืออื่น ๆ คุณควรจัดสรรเงินก้อนแรกไว้สำหรับค่าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของตัวคุณและครอบครัว เช่น เงินค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน เป็นต้น หลังจากที่เตรียมการขั้นพื้นฐานสำหรับชีวิตไว้เรียบร้อยแล้ว คุณควรจะตระหนักถึงค่าใช้จ่ายสำคัญที่คุณควรจัดเตรียมไว้ก่อนเข้ามาลงทุนในหลักทรัพย์ เพื่อคุณจะได้ไม่มีความกังวลใจและเครียดกับผลของการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งประกอบด้วย
– เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน เงินสำรองนี้ควรเก็บไว้ในรูปแบบที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด และสามารถเบิกใช้ได้ทันทีที่ต้องการ เช่น การฝากในรูปบัญชีออมทรัพย์
– ภาระหนี้สิน ถือเป็นหน้าที่ของคุณตามกฎหมายที่ต้องรับผิดชอบ เพราะหากคุณไม่จ่ายตามที่กำหนดไว้ในสัญญา เจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์สินในครอบครองหรืออาจฟ้องล้มละลายได้
– เงินสำหรับแผนการในอนาคต หากคุณมีแผนการที่ชัด-เจนเหล่านี้อยู่ในใจ ก็ควรจะวางแผนเก็บเงินเพื่อแผนการนั้น โดยคำนวณจากเงินที่มีในปัจจุบันและรายได้ในอนาคต
– เงินประกัน คุณอาจจะจัดทำประกันชีวิต หรือประกันอื่น ๆ ทั้งแก่ตัวคุณเองและสมาชิกในครอบครัวให้ ในกรณีที่คุณไม่อยากเสี่ยงกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
คุณสามารถวางแผนการเงินกระแสเงินสดอย่างง่าย ๆ โดยใช้ตัวอย่างแบบฟอร์มข้างล่างช่วยวิเคราะห์สถานะทางการเงินของคุณในช่วงเวลา 5 ปี
ขั้นตอนที่ 1 รวมรายได้ที่ได้รับทั้งหมด
รายได้ | รายเดือน | รายปี | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
เงินเดือนของคุณ | | | | | | | |
เงินเดือนคู่สมรส | | | | | | | |
โบนัส | | | | | | | |
เงินปันผล | | | | | | | |
ดอกเบี้ยรับ | | | | | | | |
รายได้อื่น ๆ | | | | | | | |
รายได้รวม (1) | | | | | | | |
ขั้นตอนที่ 2 หักค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรกสำหรับดำรงชีพ
ค่าใช้จ่าย | รายเดือน | รายปี | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
ค่าเช่า/ผ่อนบ้าน | | | | | | | |
ค่าน้ำค่าไฟ | | | | | | | |
ค่าอาหาร | | | | | | | |
ค่าเสื้อผ้า | | | | | | | |
ค่าพาหนะ | | | | | | | |
ค่าพักผ่อน เช่น ดูหนังฟังเพลง | | | | | | | |
ค่าใช้จ่ายรวม (2) | | | | | | | |
ขั้นตอนที่ 3 ตรวจดูเงินสำรองฉุกเฉินว่ามีเพียงพอหรือไม่
เงินสำรอง | เก็บเพิ่ม | ปัจจุบัน | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
เงินฝากออมทรัพย์ | | | | | | | |
เงินฝากหรือลงทุนในระยะสั้นอื่น ๆ | | | | | | | |
รวม (3) | | | | | | | |
ขั้นตอนที่ 4 จ่ายภาระหนี้สินที่จำเป็น (ถ้ามี)
หนี้สิน | รายเดือน | รายปี | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
หนี้บัตรเครดิต | | | | | | | |
เงินกู้ระยะสั้น | | | | | | | |
เงินกู้ผ่อนระยะยาว | | | | | | | |
เงินกู้เพื่อการศึกษา | | | | | | | |
อื่น ๆ เช่น ภาษีค้างจ่าย | | | | | | | |
รวม (3) | | | | | | | |
ขั้นตอนที่ 5 หักเงินสำหรับแผนการในอนาคต
ค่าใช้จ่ายอนาคต | รายเดือน | รายปี | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
ค่าดาวน์บ้าน/รถ | | | | | | | |
ค่าซ่อมแซมครั้งใหญ่ | | | | | | | |
ทุนการศึกษาลูก ๆ | | | | | | | |
ค่าภาษีรายปี | | | | | | | |
อื่น ๆ เช่นแผนเกษียณ | | | | | | | |
รวม (5) | | | | | | | |
ขั้นตอนที่ 6 หักเงินค่าเบี้ยประกันเพื่อความมั่นคงในชีวิต (ถ้ามี)
เงินประกัน | รายเดือน | รายปี | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
ค่าประกันชีวิต | | | | | | | |
ค่าประกันรถ | | | | | | | |
ค่าประกันอื่น ๆ | | | | | | | |
รวม (6) | | | | | | | |
ขั้นตอนที่ 7 คำนวณหาเงินเก็บและเงินลงทุนที่คุณมี
หนี้สิน | รายเดือน | รายปี | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
รายได้รวม (1) | | | | | | | |
หักค่าใช้จ่ายประจำ (2) | | | | | | | |
หักเงินสำรองรวม (3) | | | | | | | |
หักหนี้สินรวม (4) | | | | | | | |
หักค่าใช้จ่ายอนาคต (5) | | | | | | | |
หักเงินประกันรวม (6) | | | | | | | |
เงินเก็บและเงินลงทุน | | | | | | | |
เรามาลองดูตัวอย่างของการใช้ตารางนี้ช่วยวางแผนทางการเงินในชีวิตจริงของคุณน้ำผึ้งซึ่งทำงานเป็นเลขาของผู้จัดการบริษัทส่งออกแห่งหนึ่ง มีรายได้ 25,000 บาทต่อเดือน และต้องการที่จะเก็บเงินไว้ซื้อทรัพย์สินที่จำเป็น เช่น บ้าน รถ ดูแลพ่อแม่ นอกจากนี้ ยังหวังจะเก็บเงินไว้ใช้ยามเจ็บป่วยและหลังเกษียณอีกด้วย
รายได้
|
รายเดือน
|
รายปี 1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
รวม
|
เงินเดือนของคุณ | 25,000 | 300,000 | 300,000 | 300,000 | 336,000 | 336,000 | 1,572,000 |
โบนัส (2 เดือน) | | 50,000 | 50,000 | 50,000 | 75,000 | 75,000 | 300,000 |
รายได้อื่นๆ | | 10,000 | 12,000 | 15,000 | 18,000 | 25,000 | 80,000 |
รายได้รวม (1) | | 360,000 | 362,000 | 365,000 | 413,000 | 436,000 | 1,952,000 |
ค่าใช้จ่าย |
รายเดือน
|
รายปี 1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
รวม
|
ค่าเช่าบ้าน | 5,000 | 60,000 | 60,000 | 62,000 | 63,000 | 65,000 | 310,000 |
ค่าน้ำ ค่าไฟ | 1,000 | 12,000 | 12,000 | 12,000 | 12,500 | 13,000 | 61,500 |
ค่าอาหาร | 7,000 | 84,000 | 84,000 | 86,000 | 87,000 | 90,000 | 431,000 |
ค่าเสื้อผ้า |
–
|
12,000 | 12,000 | 12,000 | 15,000 | 15,000 | 66,000 |
ค่าพาหนะ | 3,000 | 36,000 | 36,000 | 36,000 | 40,000 | 40,000 | 188,000 |
ค่าพักผ่อน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง | 1,000 | 12,000 | 12,000 | 12,000 | 15,000 | 15,000 | 66,000 |
ค่าใช้จ่าย (2) | | 216,000 | 216,000 | 220,000 | 232,500 | 238,000 | 1,125,000 |
เงินฝาก (3) | 1,000 | 12,000 | 12,000 | 12,000 | 15,000 | 15,000 | 66,000 |
ค่าบัตรเครดิต (4) | 1,000 | 12,000 | 12,000 | 12,000 | 15,000 | 15,000 | 66,000 |
เก็บสำหรับค่าดาวน์รถ (5) | 2,500 | 30,000 | 30,000 | 30,000 | 45,000 | 45,000 | 180,000 |
อื่นๆ เช่น แผนเกษียณ (5) | 1,250 | 15,000 | 15,000 | 15,000 | 18,000 | 18,000 | 81,000 |
รวม (2+3+4+5) | | 285,000 | 285,000 | 289,000 | 325,500 | 331,000 | 1,515,500 |
เงินเก็บและเงินลงทุน (1)-รวม(2+3+4+5) |
| 75,000 | 77,000 | 76,000 | 87,500 | 105,000 | 420,500 |
หลังจากที่น้ำผึ้งได้จัดการวางแผนการเงินแล้ว เธอเริ่มหายกังวลว่าในอนาคต เธอจะมีเงินเพียงพอที่จะซื้อทรัพย์สินที่ต้องการ และเหลือไว้ใช้ยามเกษียณตามที่เธอวางแผนไว้ได้หรือไม่ เพราะเมื่อดูจากตารางแล้ว จะเห็นได้ว่าเมื่อเธอทำงานได้ 5 ปี เธอจะสามารถ
– ดาวน์รถจากเงินที่เก็บสะสมไว้เป็นจำนวน 180,000 บาท
– มีเงินฝากสำรองฉุกเฉินยามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น 66,000 บาท
– มีเงินเก็บและลงทุนสะสมเป็น 420,500 บาท ซึ่งเธอสามารถนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อทำให้เงินที่มีอยู่เพิ่มขึ้น และมีเก็บไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคในอนาคตได้
– นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังไม่ต้องห่วงเงินทองที่จะเก็บไว้ใช้หลังเกษียณอายุอีกด้วย เนื่องจากเธอสำรองไว้ในแต่ละปีของทางการทำงานแล้ว เช่น ในระยะ 5 ปี จะมีทั้งหมด 81,000 บาท
ในตอนนี้ น้ำผึ้งพร้อมที่จะลงทุนอย่างสบายใจ เพราะถึงแม้ว่าผลการลงทุนอาจจะไม่เป็นอย่างที่เธอคาดคิดไว้ เธอก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย และไม่ต้องกลัวว่าจะต้องลำบากเพราะมีเงินใช้ไม่พอเลย หากแต่สิ่งที่เธอจะคิดต่อไปคือ จะทำอย่างไรที่จะทำให้เงินสะสมที่มีอยู่เจริญงอกงาม และสามารถเป็นแรงหนุนช่วยให้เธอทำความฝันในชีวิตเป็นจริงได้
เมื่อคุณวางแผนการเงินเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะทราบว่าคุณมีเงินเก็บและเงินลงทุนเท่าไหร่ และเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้ความฝันในชีวิตของคุณเป็นจริงตามที่ตั้งใจไว้
ที่มา: http://www.bla.co.th/th/Elearning/pf.asp?p=1#part1
No Comment